ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามการตัดสินใจของสหภาพยุโรปในการสร้างมาตรฐานการชาร์จที่บังคับสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
น่าจะเป็นข่าวดี ตอนนี้ Apple ได้กล่าวว่าในที่สุดแล้วก็จำกำหนดมาตรฐานสายชาร์ต USB-C เพราะไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งนี้เป็นไปตามการตัดสินใจของสหภาพยุโรป (EU) ในการสร้างมาตฐานการชาร์จสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก
“เราไม่มีทางเลือก ” Apple ได้กล่าว
Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple กล่าวที่งาน WSJ Tech Live Conference ได้อธิบายถึงจุดยืนของ Apple การเปิดเผยของเขาเกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจของสหภาพยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ที่กำหนดให้ผู้ผลิตทุกรายใช้ USB-C เพื่อชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก เช่น iPhone ภายในสิ้นปี 2567
“เราไม่มีทางเลือก เช่นเดียวกับที่ทำกันทั่วโลก (เรา) จะปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น” เขากล่าว แต่อย่างไรก็ดี มันก็ไม่จำเป็นที่จะเกิดขี้นเร็วๆ นี้ Joswiak ปฏิเสธิที่จะยอมรับเงื่อนไขในกรอบเวลานี้
อันที่จริง ก็ดูเหมือนว่า Apple จะเริ่มหันมาใช้ USB-C แล้ว เช่น iPads, Macs หรือแม้แต่ AirPods Pro 2 ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด ล้วนได้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงกัน แม้ความพยายามของ AirPower จะล้มเหลวในการใช้งานในที่สาธารณะ แต่ Apple ก็ยังคงพัฒนาเพื่อให้เห็นว่าการชาร์จแบบไร้สายจะใช้พลังงานได้อย่างมีประทธิภาพได้อย่างไร
ทำไม Apple ถึงคิดต่างออกไป
ในขณะที่ Joswiak ยอมรับว่าสหภาพยุโรปมีความหมายที่ดีกับอาณัติของตน เขาอธิบายว่า Apple ยังคงมองการตัดสินใจต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีเพียงใด ว่าเป็นภัยคุกคามต่อ นวัตกรรมในอนาคต
มุมมองของ Apple เห็นว่าการที่ไม่ใช้สายในการเชื่อมต่อพลังงาน จะเป็นความท้าทายในมาตรฐานการเชื่อมต่อใหม่ และมันก็สมเหตุสมผลเพระในความเป็นจริงส่วนใหญ่ไม่ได้นำเสนอเรื่องการที่ ที่ชาร์จถูกทิ้ง และเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 11,000 ตันต่อปี ตามข้อมูลของสหภาพยุโรป Joswiak ยังชี้ให้เห็นว่าการที่เราจะพยายามที่จะลดขยะด้วยการไปให้ USB-C ของสหภาพยุโรปสุดท้ายก็เป็นการเพิ่มจำนวนขยะในที่สุด
ทำไมยุโรปถึงคิดต่าง
นี่อาจเป็นความจริง แต่เมื่อมีการตัดสินใจ EU ชี้ให้เห็นว่าในปี 2019 มากกว่า 50% ของเครื่องชาร์จที่ขายพร้อมกับโทรศัพท์มือถือในปี 2018 มีหัวต่อ USB-B, USB-C 29% และ 21% เป็นหัวต่อ Lightning
เพื่อพิสูจน์การตัดสินใจของเขาเกี่ยวกับนวัตกรรมและคำสั่งของรัฐบาล Joswiak ได้หารือเกี่ยวกับกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ ความเข้ากันได้กับ เครื่องช่วยฟังในสมาร์ทโฟน “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่โทรศัพท์มือถือต้องเป็นไปตามข้อกำหนดความเข้ากันได้ของเครื่องช่วยฟังซึ่งได้รับการอธิบายอย่างเข้มงวดโดยกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม” เขากล่าว “ปัญหาคือมันไม่ได้ผล ดังนั้นเราจึงคิดแนวทางใหม่ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมที่ได้ผล เราตอบสนองความต้องการของรัฐบาล”
Apple สามารถโต้แย้งได้ดีว่าอีกวิธีหนึ่งที่อาจมีความหมายมากกว่าในการพยายามทำตามขั้นตอนที่จับต้องได้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมคือการตัดสินใจที่เพิ่งประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อสนับสนุนการติดตั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมขนาดใหญ่ทั่วยุโรป
บริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องในการเปิดโครงการที่มีขนาดระหว่าง 30 ถึง 300 เมกะวัตต์ต่อโรงงาน สิ่งนี้สะท้อนถึงความพยายามทั่วทั้งบริษัทในการทำให้คาร์บอนเป็นกลางทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ซึ่งอาจรวมถึงอุปกรณ์ชาร์จด้วย
อีกหนึ่งสิ่ง
Joanna Stern ผู้สัมภาษณ์ “Wall Street Journal” ถามว่า นวัตกรรมได้หยุดลงในสมาร์ทโฟนหรือไม่ “บางคนบอกว่าโทรศัพท์กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ” เธอกล่าว “ว้าว” Joswiak กล่าว “ฉันคิดว่านั่นเป็นโทรศัพท์ของคนอื่น และฉันเห็นด้วย – ของเราค่อนข้างน่าตื่นเต้น” ส่วนแบ่งการตลาดที่ ดูเหมือนว่า เติบโตของ Apple ในช่วงที่อุตสาหกรรมโดยรวมตกต่ำลงอาจเป็นการอ้างสิทธิ์ครั้งสุดท้ายของเขา