แปลงไฟล์ PDF ง่าย ๆ ด้วยเว็บไซต์สำหรับแปลงไฟล์
PDF นับว่าเป็นไฟล์ชนิดหนึ่งที่หลาย ๆ คนเลือกใช้เพื่อป้องกันการถูกแก้ไขข้อมูลในชิ้นงาน โดยงานที่ถูกบันทึกเป็น PDF แล้ว ข้อมูลจะยังคงลักษณะเอกสารเหมือนต้นฉบับ ดังนั้นการส่งเอกสารในหลาย ๆ องค์กรไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, หน่วยงานต่าง ๆ หรือแม้แต่ตัวบุคคลเองก็มักจะบันทึกเอกสารเป็น PDF เพื่อป้องกันการคาดเคลื่อนของข้อมูลในชิ้นงาน หรือเอกสารนั้น ๆ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 5 เว็บไซต์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถแปลง PDF เป็นไฟล์สกุลอื่น และแปลงไฟล์สกุลอื่นให้มาอยู่ในรูปแบบของ PDF
แนะนำ 5 เว็บไซต์สำหรับ แปลงไฟล์ PDF ดี ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอป
(https://www.ilovepdf.com/th/pdf_to_word)
(https://www.ilovepdf.com/th/pdf_to_word)
- I LOVE PDF เว็บไซต์ แปลงไฟล์ ที่สามารถใช้งานเกี่ยวกับการแปลง PDF ได้ครอบคลุมที่สุดอีกเว็บไซต์หนึ่ง โดยคุณสามารถเลือกรูปแบบการใช้งานจาก “เครื่องมือ PDF ทั้งหมด” จากนั้นเลือกเมนูที่คุณต้องการใช้งาน เช่นหากต้องการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word ก็กดเลือกไปที่เมนู จากนั้นกด “เลือกไฟล์” และกดเลือกที่คำว่า “แปลงไฟล์ WORD” เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย
- 123APPS เว็บไซต์สำหรับแปลงไฟล์ประเภทต่าง ๆ ทั้งไฟล์วิดีโอ, เสียง และ ไฟล์ PDF เป็นต้น โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าอยากใช้งานแปลงไฟล์ประเภทใด ซึ่งหากเป็นการแปลง PDF ก็สามารถกดไปที่คำว่า “เครื่องมือ PDF” จากนั้นเลือกรูปแบบการแปลง กดเลือกไฟล์และทำการแปลงได้เลย นอกจากนี้ ภายในเว็บอาจจะมีโฆษณาขึ้นมาขัดจังหวะการใช้งานบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ส่งผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด
(https://www.freepdfconvert.com/th/pdf-to-word)
- PDF Converter อีกหนึ่งเว็บไซต์สำหรับแปลงไฟล์ที่มีรูปแบบการแปลงไฟล์ให้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญคือ ภายในหน้าเว็บไซต์จะมีขั้นตอนการใช้งานบอกไปเป็นขั้นตอนอย่างชัดเจน ช่วยให้ผู้ที่ไม่มีความถนัดเกี่ยวกับการแปลง PDF สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น
- PDFCandy เว็บไซต์ที่รวมการใช้งานเกี่ยวกับ PDF ไว้อย่างครบครัน อีกทั้งยังการันตีความปลอดภัยระหว่างการใช้งานบนเว็บไซต์ นอกจากนี้การแปลงไฟล์บนเว็บนี้ก็ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแค่คุณกดเลือกเมนูที่ต้องการใช้งานจากนั้นเลือกไปที่ “แปลงไฟล์” และเมื่อคุณดึงไฟล์ที่คุณต้องการแปลงมาไว้บนหน้าเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถก็แปลงไฟล์อีกครั้งเพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
(https://tools.pdf24.org/th/pdf-to-word)
- PDF24 Tools อีกหนึ่งเว็บไซต์แปลงไฟล์ ที่มีเมนูให้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก และสามารถได้บนหลาย ๆ อุปกรณ์ทั้ง Windows, Linux, MAC, iPhone และ Android เป็นต้น อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใด ๆ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่สะดวกไม่แพ้เว็บอื่น ๆ เลยทีเดียว
บนคอมพิวเตอร์ก็สามารถ แปลงไฟล์ PDF ได้เช่นกัน
ในกรณีที่เราจะกล่าวถึงนี้คือ กรณีที่จะแปลงไฟล์ WORD เป็น PDF เท่านั้น โดยสามารถทำได้บนทุกอุปกรณ์ที่มีการลงโปรแกรม Microsoft โดยคุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ เมื่อคุณพิมพ์เอกสารบน Word เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยากจะทำการบันทึกโดย แปลง PDF (แปลงไฟล์ Word ของคุณเป็น PDF) ให้คุณไปยัง “File” และไปที่ “Save As” เลือกตำแหน่งที่ต้องการเก็บไฟล์ จากนั้นให้คุณตั้งชื้อไฟล์งาน ที่ช่องว่างที่มีคำว่า “Enter File Name Here” และช่องด้านล่างลงมาจะมีลูกศรให้เลือกนามสกุลของไฟล์ ให้คุณกดเลือกไปที่ “PDF” เพียงเท่านี้ก็เป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามการแก้ไขไฟล์ หรือแปลงไฟล์ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้แอปหรือเว็บไซต์เข้ามาช่วยเนื่องจากจุดประสงค์ของไฟล์ประเภท PDF คือออกแบบมาเพื่อป้องกันการถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือคัดลองชิ้นงาน ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีอุปกรณ์อื่นเข้ามาช่วยเหลือนั่นเอง
แปลงไฟล์ PDF ด้วย Google Docs ที่คุณจะได้ข้อมูลจาก PDF ที่ตรงที่สุด
วิธีนี้จะเรียกว่าการ แปลงไฟล์ ก็คงจะไม่ถูกต้องไปทั้งหมด เนื่องจากขั้นต้องการแปลงไฟล์นั้นจะเป็นการแปลงโดยที่เราจะต้องแคปภาพในส่วนที่มีข้อมูลที่เราต้องการแปลง แล้วอัปโหลดไปยัง Google drive ของเราเสียก่อน จากนั้นกดคลิกขวาที่รูปภาพที่เราต้องการแปลงหรือต้องการข้อมูลจากภาพนี้ และเลือกที่ “Google Docs, Google เอกสาร” แล้วเว็บไซต์จะพาราไปยังหน้า Google Docs โดยให้หน้าจะแสดงภาพต้นฉบับ และข้อความที่ถอดออกจากภาพ จากนั้นเราก็สามารถ Copy ข้อมูลเหล่านั้นไปวางยัง Word ได้แล้ว
ในกรณีที่เป็นไฟล์ PDF ก็เช่นเดียวกันนี้เนื่องจากการใช้แอปพลิเคชันบนคอมพิวเตอร์ หรือเว็บไซต์สำหรับแปลงไฟล์บางครั้งอาจจะทำให้เราได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อยากแนะนำให้กับเพื่อน ๆ ที่ทำชิ้นงานต้นฉบับสูญหาย และต้องการแก้ไขข้อมูลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขข้อมูล หรือการ Copy ข้อมูล หรือผลงานของผู้อื่นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่สมควรกระทำ และบางชิ้นงานอาจจะมีเรื่องของลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นเราจึงจะแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการนำข้อมูลไปอ้างอิงข้อมูลในชิ้นงานต่าง ๆ และให้ใส่ใจ และให้ความสำคัญในส่วนของเครดิต ที่มาหรือใส่แหล่งอ้างอิงข้อมูล เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ และการกระทำที่ผิดกฎหมายที่อาจจะเกิดตามมาในภายหลังได้ ซึ่งการอ้างถึงแหล่งที่มาข้อมูลนั้นนอกจากจะช่วยให้งานของคุณมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้นแล้วอีกทั้ง ยังเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของผลงานนั่นเอง
ติดตามข่าวสารอื่นๆ จากเราได้ที่
Facebook Page : facebook.com/Siamtechdaily
website : siamtechdaily.com
คนบ้าบอล
ติดตาม website ที่น่าสนใจ
Test speed internet
ความรู้ Blockchain